วันอาทิตย์ที่ 23 พฤษภาคม พ.ศ. 2553

ขอให้เดินทางโดยสวัสดิภาพ


เดินผ่านมากี่เส้นทางอย่างที่หวัง
หรือกำลังเดินทางไปในวันนี้
หลากจุดหมายหลายแนวทางนั้นมากมี
ขอสู่ที่ปลายทางอย่างปลอดภัย

รู้สึกดีที่ปลายทาง


เหมือนสุดท้ายปลายทางช่างเงียบเหงา
มีเพียงเรายึดมั่นไม่หวั่นไหว
การหยัดยืนมุ่งมั่นหวังกลับไป
เหมือนไม่ได้สิ่งใดได้กลับมา
ไม่รู้นะพูดให้ใครอาจไม่ซึ้ง
รู้สึกหนึ่งที่ใจได้ค้นหา
และได้รับติดตามเตือนเหมือนชินชา
รู้เพียงว่ารู้สึกนี้ดีเหลือเกิน
แม้เป็นอยู่อน่างนี้ไม่มีเปลี่ยน
ก็จะเวียนแวะไปใช่ผิวเผิน
กับเส้นทางสายเก่าเราเคยเดิน
ค่ามากเกินรู้สึกดีที่ปลายทาง

แค่อยากบอกว่าคิดถึง


คิดถึงเธอบอกได้ไหมส่งไปถึง
เธอคนหนึ่งคนนี้ที่ห่างหาย
การจากลานานเนิ่นเกินบรรยาย
ถึงความหมายว่าคิดถึงให้ซึ้งพอ
คิดถึงเธอเหลือเกินก็เขินบอก
จะหมายหลอกใครต่อใครได้เล่าหนอ
เร้นอยู่ลึกสุดหัวใจได้เพียงรอ
จนเกือบท้อต่อรู้สึกจะนึกทน
ไม่เป็นไรหนอกหนาอย่าตระหนก
เพียงหยิบยกบางช่วงที่มีสุขล้น
รู้สึกหนึ่งที่คิดถึงซึ่งบางคน
ที่ลึกจนเกินซ่อนเร้นเช่นเป็นมา
แค่อยากบอกว่าคิดถึงซึ้งเสมอ
คิดถึงเธอใช่ถามทวงให้ห่วงหา
แม้ไม่มีเสียงขานรับตอบกลับมา
ก็คงค่าคิดถึงนี้มิเปลี่ยนแปลง

กระทงหลงทาง


ลอยกระทง...หวังส่งถึง...ซึ่งจุดหมาย
ไปตามสาย...วารี...ที่รินไหล
ระลอกคลื่น...ลมพาพัด...ซัดไปไกล
ลับตาให้...จินตนา...ว่าถูกทาง
แต่กระทงในใจไม่นำส่ง
เหมือนยังคง...วนอยู่ใกล้...ไม่ไกลห่าง
ไปไม่ถึง...อีกขอบฝั่ง...หวังวาดวาง
กลับหลงทาง...ย้อนสู่ใจ...ไหลหลงวน
จะกี่ครั้ง...กี่ครา...จึงจะถึง
อีกครั้งหนึ่ง...หรือมากมาย...หลายครั้งหน
คงเช่นเดิม...ไหลลับ...กลับไหลวน
เพราะว่าคน...ลอยกระทง...หลงทางใจ

วันเสาร์ที่ 22 พฤษภาคม พ.ศ. 2553

สับสน


สับสนหรือเปล่าเล่าเอ๋ย กับชื่อที่เอ่ยเรียกเจ้า
ชื่อ"ดำ" ชื่อ"ขาว" ชื่อ"เทา" เรียกกันเอาตามใจไม่แน่นอน
บ้างก็มีหลายชื่อ คนโน้นตั้งชื่อไว้ให้ก่อน
มาอีกคนตั้งให้ใหม่ไม่ซ้ำซ้อน เลยมีสองสามชื่อคือตัวเอง
ต้องคอยจำทุกชื่อไป หากจำได้เจ้าก็เก่ง
แต่บางครั้งก็จำไม่ได้ในชื่อตัวเอง เพียงเปล่งเสียงขานรับตอบกลับมา
จึงดูเป็นประจบประแจง เหมือนแกล้งให้รู้ว่า
เข้าใจในสื่อภาษา ทำทีท่าน่าเอ็นดู
แล้วก็คงอยากให้ใครใครรัก ทายทักหยอกล้อทำเป็นรู้
ใครเป็นมิตรเป็นศัตรู คอยจ้องดูทีท่าเพื่อจะปรับตัว
เป็นแมวเป็นหมาที่น่ารัก รู้จักสังเกตการณ์อย่างถ้วนทั่ว
ใครดีก็ดีตอบให้ไม่ถือตัว แต่ใครยั่วแกล้งให้หมอง...ก็ต้องตอบแทน

วันศุกร์ที่ 9 เมษายน พ.ศ. 2553

บันทึกผ่านทาง...ภูพิมานรีสอร์ท

หลากพฤกษานานาพันธุ์ฉันสัมผัส เดินเลาะลัดตามเส้นทางสร้างไว้สวย
เย็นอากาศแผ่วบางช่างอำนวย เป็นสิ่งช่วยคลายร้อนใจได้แท้จริง
เขียวเหลืองแดงแต่งแต้มแย้มบานเด่น เป็นสิ่งเร้นเผยปรากฏงดงามยิ่ง
หินใหญ่น้อยตกแต่งวางอย่างเหมาะจริง เป็นสิ่งหนึ่งประทับใจได้อีกครา
เหมือนเช่นดังบรรยากาศเคยวาดฝัน แห่งคืนวันพักผ่อนใจคลายอ่อนล้า
หลากเรื่องราวรายทางที่ผ่านมา หยุดค้นหาชั่วขณะจะพักใจ
ไปอยู่ ณ มุมใดได้คลายผ่อน หลบคลายร้อนด้วยพฤกษาพาสดใส
เห็นด้วยตาสัมผัสซึ้งส่งถึงใจ เติมเต็มให้ชีวีชื่นอีกคืนวัน
เป็นบันทึกผ่านทางอีกครั้งหนึ่ง เพื่อสื่อถึงความเป็นไปไม่ผิดผัน
หลากเรื่องราวรายทางแตกต่างกัน ที่ต้องหมั่นบันทึกไว้ไม่ละเลย

ชื่นใจตน



ด้วยแรง...มุ่งมั่นฟันฝ่า สร้างคุณค่า...เสริมความหมาย
ให้วันนี้...มีมาเยี่ยมกราย การเทถ่าย...ชื่นใจตน
ปริญญา...ในมือ บอกสื่อ...สิ่งเสาะค้น
ที่เดินทาง...อย่างอดทน สำเร็จผล...ณ ปลายทาง
ได้ยิ้มรับ...กับตัวเอง คือคนเก่ง...เช่นตนสร้าง
ถือแนบใจ...อย่าได้วาง คือรางวัล...ความตั้งใจ
ขอแสดง...ความยินดี ในวันนี้...ที่ยิ่งใหญ่
ทุกรอยยิ้ม...อิ่มเอมใจ มีมอบให้...ด้วยใจจริง